หนังที่นิยมนำมาใช้ผลิตรองเท้านิรภัยมากที่สุดก็คือ หนังวัว และ หนังควาย เนื่องจากเป็นหนังที่มีความทนทานและราคาถูกที่สุดเมือเทียบกับหนังของสัตว์ประเภทอื่น หนังควายบางครั้งถูกนำมาใช้ทดแทนหนังวัวเนื่องจากมีราคาถูกกว่า และคุณสมบัติใกล้เคียงกัน
และหนังเทียมที่ก็มีการนำมาใช้ในการทำรองเท้าเซฟตี้เช่นกัน อาทิเช่น
- หนัง PU เป็นหนังเทียมที่มีคุณสมบัติ และการสัมผัสเหมือนหนังแท้ ผลิตจาก Polyurethane (PU) ซึ่งผิวจะนุ่มกว่า PVC และความทนทานจะขึ้นกับ เกรดของ PU ที่ใช้นั้นเอง
- หนัง PVC ผลิตจาก Poly Vinyl Chloride (PVC) ราคาหนังถูกที่สุด ในบรรดาหนังทั้งหมด พื้นผิวสัมผัสแข็ง ทนน้ำ แต่ไม่นุ่มและไม่ทนความร้อน นิยมใช้ในรองเท้านิรภัยราคาถูกสำหรับงานก่อสร้างทัวไป
- หนัง Microfiber เป็นหนังที่ผลิตจากไฟเบอร์ขนาดเล็กซึ่งทำมาจากใยสังเคราะห์ต่างๆ โดยทั่วไปจะเป็นโพลีเอสเตอร์และไนลอน หรือ โพลียูริเทน (Microfiber PU) สามารถทำเป็นหนังกลับได้ และสามารถปั๊มลาย เย็บ ตัดง่าย ทำให้รองเท้านิรภัยที่ทำจาก Microfiber ตะเข็บจะดูเรียบร้อย ให้ความรู้สึกเหมือนหนังแท้ นอกจากนี้ยังมีน้ำหนักเบา และอายุการใช้งานนาน จึงทำให้เป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน แต่มีข้อเสียคือไม่สามารถทนไฟได้เหมือนหนังแท้ ซึ่งไม่เหมาะกับหน้างานที่มีสะเก็ดไฟ
ซึ่งในปัจจุบันก็มีศูนย์รวมที่จัดจำหน่ายรองเท้าเซฟตี้อยู่มากมาย ทั้งเป็นหน้าร้าน หรือในออนไลน์ก็ดี ก็ก็มีข้อที่ควรระวังหากท่านจะซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์มาฝาก
เช็คข้อมูลร้านค้าก่อนซื้อทุกครั้ง
1. เจ้าของร้านมีตัวตนจริงหรือไม่
2. ช่องทางการติดต่อร้านค้า
3. เว็บบอร์ดร้าน
มีการลงทะเบียนร้านค้า แสดงตัวของเจ้าของร้านกับหน่วยงานใดบ้างหรือไม่ หากร้านค้ามีการจดทะเบียนพานิชย์อิเล็กทรอนิกส์ก็น่าจะมีความเชื่อถือมากขึ้น
เช็คข้อมูลสินค้าก่อนตัดสินใจ
1. สำรวจราคาตลาดก่อนทุกครั้ง
อย่าเชื่อในของถูก หรือของราคาต่ำเกินจริง เพราะมิจฉาชีพจะใช้คำว่า “ถูกกว่า” มาล่อหลอกให้เราหลงได้ ถ้าหากไม่หลอกก็คงเป็นของปลอมแน่นอน แต่ก็ไม่ใช่ว่าของถูกจะหลอกเสมอไป เพราะบางครั้งอาจจะเป็นสินค้าล้างสต็อกก็ได้ แต่ยังไงก็เช็คกันให้ดีๆ ก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า
2.คำวิจารณ์สินค้า มีการพูดคุยเกี่ยวกับสินค้าชิ้นที่คุณจะซื้อหรือป่าว คนที่เคยซื้อไปพูดถึงยังไงบ้าง ตรงไม่ตรงสเป็กกับในภาพยังไง เพราะคำวิจารณ์จากผู้ซื้อตัวจริงจะช่วยเราไดมาก
- คุณสมบัติของสินค้าที่จะสั่ง คำบรรยายที่ร้านแจ้งไว้เกินจริงหรือไม่ แนะนำให้คุณลองหาข้อมูลสินค้าจากที่อื่นๆ เพิ่มเติมว่าสินค้าชิ้นนี้มีขายที่ไหนอีกหรือไม่ และคนอื่นๆ พูดถึงคุณสมบัติของสินค้าชิ้นดังกล่าวไว้ยังไงบ้าง
- อายุของร้านค้าก็สำคัญ เพราะหากเป็นพ่อค้าแม่ขายตัวจริงก็คงไม่เปิดร้านขายแค่วันสองวันแน่นอน วิธีการเช็คก็อาจจะดูจากวันที่เปืดร้านที่ร้านค้าแจ้งไว้หน้าเว็บ กระทู้ที่เก่าที่สุดในเว็บบอร์ด หรือ หากร้านค้ามีโดเมนเป็นของตัวเองก็สามารถตรวจสอบอายุโดเมน ชื่อเจ้าของโดเมนได้เลย